วันพุธที่ 10 สิงหาคม พ.ศ. 2554

อุทยานแห่งชาติตาดโตน จ.ชัยภูมิ

อุทยานแห่งชาติตาดโตน
จังหวัดชัยภูมิ



"อุทยานแห่งชาติตาดโตน"
   อยู่ในท้องที่อำเภอเมืองชัยภูมิทางทิศเหนือของจังหวัดชัยภูมิ ลักษณะทางธรณีวิทยาประกอบด้วย หินปูนและหินดินดาน โดยเฉพาะบริเวณน้ำตกตาดโตนประกอบด้วยลานหินที่กว้างใหญ่และสวยงาม พื้นที่ทั่วไปปกคลุมด้วยป่าดิบแล้งและป่าเต็งรังเป็นส่วนใหญ่ มีเนื้อที่ประมาณ 217.18 ตารางกิโลเมตร หรือ 134,737.50 ไร่
     อุทยานแห่งชาติตาดโตน มีพื้นที่อยู่บนเทือกเขาภูแลนคา มีพื้นที่ประมาณ 1 ใน 4 ของเทือกเขาภูแลนคา โดยทั่วไปเป็นที่ราบสูงโดยมีเทือกเขาล้อมรอบที่ราบเอาไว้ ตอนกลางเป็นหุบเขากว้างใหญ่ เทือกเขาที่ล้อมรอบนี้ประกอบด้วยยอดเขาสูงได้แก่ ภูเกษตร ภูดี ภูหยวก เป็นต้น ยอดเขาสูงเหล่านี้เป็นต้นน้ำลำธารและต้นกำเนิดของน้ำตกตาดโตน ซึ่งจะไหลรวมกันเป็นห้วยปะทางและไหลผ่านตัวอำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิ สภาพป่าเป็นป่าดิบแล้ง ในบริเวณริมลำห้วยหุบเขาและยอดเขา มีดินที่มีความอุดมสมบูรณ์ดี และป่าเต็งรังเป็นดินกรวด มีความอุดมสมบูรณ์ค่อนข้างต่ำ
      
       น้ำตกตาดโตน เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของจังหวัดชัยภูมิ ห่างจากตัวจังหวัดชัยภูมิไปทางทิศเหนือ 21 กิโลเมตร เป็นน้ำตกที่สวยงาม ที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติตาดโตน ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ มีน้ำไหลตลอดปี โดย เฉพาะในฤดูฝนจะสวยงามเป็นพิเศษ ด้านบนเป็นธารน้ำไหลผ่านลานหินสองฝั่งธารร่มรื่นด้วยต้นไม้ใหญ่ เหมาะที่ จะนั่งพักผ่อนชมธรรมชาติและเล่นน้ำ ด้านบนน้ำตกมีสภาพเป็นลานหินกว้างประมาณ 50 เมตร และยาวไปตาม ลำน้ำ ประมาณ 300 เมตร ทำให้น้ำไหลลาดมาตามลานหิน มีแอ่งน้ำที่สามารถเล่นน้ำได้เป็นจุดๆ และไหลลงมาตก ที่หน้าผาเป็นน้ำตกตาดโตนที่มีความสูงประมาณ 6 เมตร และกว้าง 50 เมตร ในฤดูฝน ( ประมาณเดือนมิถุนายน - กันยายน )
      บริเวณน้ำตกตาดโตนมี ศาลเจ้าพ่อตาดโตน (ศาลปู่ด้วง) มีประวัติว่า เจ้าพ่อตาดโตนเป็นคนเชื้อสายเขมรอพยพเข้าเมืองไทย ในเวลาใกล้เคียงกับพ่อพระยาแล (พระยาภักดีชุมพล) ท่านบำเพ็ญตนเป็นชีปะขาวยึดมั่นในสมถะ กรรมฐาน ปฏิบัติธรรมอย่างเคร่งครัด และช่วยรักษาคนไข้ เป็นที่นับถือเลื่อมใสของราษฎรมาก เมื่อถึงแก่กรรมจึง มีีการสร้างศาลขึ้นเพื่อเป็นที่เคารพสักการะไว้หลายแห่ง นอกจากที่น้ำตกตาดโตนแล้วยังมีศาลปู่ด้วงที่ช่อง สาม หมอกและที่วัดชัยภูมิพิทักษ์อีกด้วย มักมีประเพณีรำผีฟ้า ผีทรงบวงสรวงเจ้าพ่อเป็นประจำ มีทางลาดยางตลอด ถึงน้ำตก

 ฤดูกาลท่องเที่ยว
- ฤดูฝน ในช่วงเดือนมิถุนายนถึงเดือนกันยายน น้ำตกตาดโตน จะมีน้ำไหลเต็มที่และสวยงาม
ค่าธรรมเนียมเข้าชม
- คนละ 20 บาท
- รถยนต์ 30 บาท

1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากตัวเมืองทางหลวงหมายเลข 2159 และแยกขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 2051 ระยะทางจากตัวเมืองถึงที่ทำ การอุทยานฯ ระยะทางประมาณ 21 กิโลเมตร หรืออาจใช้เส้นทางหมายเลข 201 ทางไปอำเภอภูเขียว จะมีเส้น ทางแยกซ้ายอีก 21กิโลเมตรไปน้ำตกตาดโตนได้เช่นกัน
2. โดยรถโดยสารประจำทาง
สำหรับผู้ที่เดินทางโดยรถโดยสาร สามารถใช้บริการรถสองแถวสายชัยภูมิ-ท่าหินโงม ลงที่ด่านเก็บค่าธรรมเนียม แล้วเดินเท้า อีก 1 กิโลเมตรถึงที่ตั้งอุทยานเดินเข้าน้ำตกcตาดโตนประมาณ 500 เมตร ตามถนนราดยาง หรือเดิน ลัดเลาะตามโขดหิน




    สิ่งอำนวยความสะดวก
มีบ้านพักและสถานที่กางเต้นท์ไว้บริการนักท่องเที่ยวในบริเวณน้ำตกจะมีร้านคาราโอเกะและอาหาร ให้คนที่อยาก เปลี่ยนบรรยากาศ คนส่วนมากจะมาที่นี่กันในหน้าแล้งของทุกปีเพื่อคลายร้อนกัน จึงไม่แปลกที่จะเห็นทั้งเด็กและ ผู้ใหญ่แม้กระทั่งวัยไม้ไกล้ผั่ง เพราะบรรยากาศร่มรื่นความ เย็นสบาย แถมมีร้านขาย ของ คอยบริการ
สถานที่ติดต่อ • อุทยานแห่งชาติตาดโตน ตู้ ปณ. อ.เมือง จ.ชัยภูมิ 36000 โทรศัพท์ : (0) 1926 4870


ผาหำหด จ.ชัยภูมิ

ผาหำหด
อุทยานแห่งชาติไทรทอง
จังหวัดชัยภูมิ



"ผาหำหด"
เป็นหน้าผาที่มีลักษณะพิเศษ คือเป็นแผ่นหินยื่นออกไปนอกหน้าผา ขนาดกว้าง - ยาว ประมาณ 1 เมตร สูงจากระดับน้ำทะเล 864 เมตร และเป็นจุดสูงของเทือกเขาพังเหยในจังหวัดชัยภูมิ สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ได้รอบด้านผาหำหดนี้เดิมชื่อ "ผาน้ำผึ้ง" เนื่องจากใต้หน้าผามีผึ้งมาทำรัง แต่ชาวบ้านได้เปลี่ยนชื่อเป็น "ผาหำหด" จากคำพูดของผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิท่านหนึ่ง
    ในปี พ.ศ. 2541 ผู้ว่าราชการจังหวัดชัยภูมิในขณะนั้น (นายเชาวนเลิศ ไทยานนท์) และคณะได้มาสำรวจจุดชมวิวที่เขาพังเหย และได้พบหน้าผาสวยงามหลายแห่งจึงตั้งชื่อหน้าผาเหล่านั้น เช่น ผาพ่อเมือง ผาเพลินใจ ผาอาทิตย์อัสดง ผาสวนสวรรค์ เป็นต้น พอมาถึงหน้าผาแห่งนี้เนื่องจากความน่าหวาดเสียวจึงอุทานขึ้นว่า "เห็นแล้วหำหดเลย" ชาวบ้านจึงได้เรียกหน้าผาแห่งนี้ว่า "ผาหำหด" นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา.











 


ผาหำหด ในแผนที่จะอยู่ก่อนถึง ทุ่งบัวสวรรค์ ประมาณ 1.5 กิโลเมตร
การเดินทาง การเดินทาง

เส้นทางที่ 1 :-

จากกรุงเทพฯ - ผาหำหด ระยะทางประมาณ 331 กิโลเมตร

จากกรุงเทพฯ ( ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ) ใช้ ถนนพหลโยธิน ( ถนนหมายเลข 1 )
มุ่งหน้าสู่ จังหวัดสระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร จะถึง ตัวเมืองสระบุรี
จากนั้น ขับตรงไป มุ่งหน้าสู่ จังหวัดลพบุรี ประมาณ 16 กิโลเมตร
จากนั้น เลี้ยวขวา ไป จังหวัดเพชรบูรณ์ ( ทางหลวงหมายเลข 21 )
จากนั้น ขับตรงไป มุ่งหน้าสู่ จังหวัดเพชรบูรณ์
ประมาณ 146 กิโลเมตร ( หลักกิโลเมตรที่ 146 ทางหลวงหมายเลข 21 )
ก็จะถึง 4 แยกไฟแดง

ตรงไป ไป จังหวัดเพชรบูรณ์ ไป
เขาค้อ ไป ภูทับเบิก ( ทางหลวงหมายเลข 21 )

เลี้ยวซ้าย ไป
บึงบอระเพ็ด ไป จังหวัดนครสวรรค์ ( ทางหลวงหมายเลข 225 )

เลี้ยวขวา ไป
อุทยานแห่งชาติไทรทอง ไป จังหวัดชัยภูมิ ( ทางหลวงหมายเลข 225 )

ให้ท่าน เลี้ยวขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 225 ไป จังหวัดชัยภูมิ
จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 65 กิโลเมตร ( หลักกิโลเมตรที่ 110 - 111 ทางหลวงหมายเลข 225 )
ก็จะถึง
จุดชมวิวเขาพังเหย ( อุทยานแห่งชาติไทรทอง ) ซึ่งอยู่ทางด้าน ขวามือ ของท่าน

จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 4.5 กิโลเมตร ( หลักกิโลเมตรที่ 115 - 116 ทางหลวงหมายเลข 225 )

ถ้า เลี้ยวซ้าย จะไป
ทุ่งดอกกระเจียว อุทยานแห่งชาติไทรทอง

ไม่ต้อง เลี้ยวซ้าย

ให้ท่าน ขับตรงไป ประมาณ 6.5 กิโลเมตร ( หลักกิโลเมตรที่ 121 - 122 ทางหลวงหมายเลข 225 )
จากนั้น เลี้ยวซ้าย
จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 1 กิโลเมตร
จากนั้น เลี้ยวขวา
จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 2.5 กิโลเมตร
จากนั้น เลี้ยวขวา
จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 2.8 กิโลเมตร
ก็จะถึง ด่านเก็บค่าธรรมเนียม

จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 1.1 กิโลเมตร
ก็จะถึง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติไทรทอง

จาก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติไทรทอง
ให้ท่าน ขับตรงไป ตามเส้นทางที่จะไป
น้ำตกไทรทอง ประมาณ 500 เมตร
จากนั้น เลี้ยวซ้าย
จากนั้น ขับข้ามลำธาร
( ตรงนี้ รถเก๋ง อาจจะไปไม่ได้นะครับ ถ้ารถเก๋งไปไม่ได้ให้ท่านจอดรถไว้ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แล้วเหมารถกระบะไปนะครับ )
เมื่อ ข้ามลำธาร เรียบร้อยแล้ว
จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 8.6 กิโลเมตร ( ทางราดยาง )
จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 600 เมตร ( ทางลูกรัง )
ก็จะถึง ลานจอดรถ + ลานกางเต็นท์
จากนั้น เดินเท้า ประมาณ 500 เมตร
ก็จะถึง
ผาหำหด
    เส้นทางที่ 2 :-
    จากกรุงเทพฯ - ผาหำหด ระยะทางประมาณ 385 กิโลเมตร
    จากกรุงเทพฯ ( ห้างฟิวเจอร์ปาร์ครังสิต ) ใช้ถนนพหลโยธิน ( ทางหลวงหมายเลข 1 ) มุ่งหน้าสู่ จังหวัดสระบุรี ประมาณ 75 กิโลเมตร จะถึง ตัวเมืองสระบุรี เมื่อถึงตัวเมืองสระบุรี แยกขวา เข้าทางหลวงหมายเลข 2 (มิตรภาพ) จากนั้นมุ่งหน้าสู่ จังหวัดนครราชสีมา ประมาณ 89 กิโลเมตร จะถึงทางเข้า เขื่อนลำตะคอง ถ้าเลี้ยวซ้ายท่านจะเข้าไปยังตัวเขื่อน ไม่ต้องเลี้ยว ให้ท่านขับตรงไปอีกประมาณ 14 กิโลเมตร จะพบกับป้ายบอกทางถนนสาย 201 กับ ถนนสาย 24 ( ที่ป้ายจะเขียนว่า อำเภอโชคชัย ) ให้ เลี้ยวซ้าย ไปทางถนนสาย 201 จากนั้นขับตรงไปมุ่งหน้าสู่ จังหวัดชัยภูมิ ประมาณ 124 กิโลเมตร ก็จะถึง ตัวเมืองชัยภูมิ จาก ตัวเมืองชัยภูมิ ให้ท่าน เลี้ยวซ้าย ไปทาง จังหวัดนครสวรรค์ ( ทางหลวงหมายเลข 225 ) จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 65 กิโลเมตร ( หลักกิโลเมตรที่ 121 - 122 ทางหลวงหมายเลข 225 ) จากนั้น เลี้ยวขวา จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 1 กิโลเมตร จากนั้น เลี้ยวขวา จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 2.5 กิโลเมตร จากนั้น เลี้ยวขวา จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 2.8 กิโลเมตร ก็จะถึง ด่านเก็บค่าธรรมเนียม จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 1.1 กิโลเมตร ก็จะถึง ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติไทรทอง จาก ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว อุทยานแห่งชาติไทรทอง ให้ท่าน ขับตรงไป ตามเส้นทางที่จะไป น้ำตกไทรทอง ประมาณ 500 เมตร จากนั้น เลี้ยวซ้าย จากนั้น ขับข้ามลำธาร ( ตรงนี้ รถเก๋ง อาจจะไปไม่ได้นะครับ ถ้ารถเก๋งไปไม่ได้ให้ท่านจอดรถไว้ ณ ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว แล้วเหมารถกระบะไปนะครับ ) เมื่อ ข้ามลำธาร เรียบร้อยแล้ว จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 8.6 กิโลเมตร ( ทางราดยาง ) จากนั้น ขับตรงไป ประมาณ 600 เมตร ( ทางลูกรัง ) ก็จะถึง ลานจอดรถ + ลานกางเต็นท์ จากนั้น เดินเท้า ประมาณ 500 เมตร ก็จะถึงผาหำหดแล้ว

วันอังคารที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2554

มอหินขาว จ.ชัยภูมิ




มอหินขาวเป็นอีกแหล่งท่องเที่ยวหนึ่งที่ถือว่ามีความงดงามทางธรรมชาติไม่แพ้ทุ่งดอกกระเจียวงาม ซึ่งตั้งอยู่ใน เขตอุทยานแห่งชาติภูแลนคา บริเวณบ้านวังคำแคน หมู่ 9 ตำบลท่าหินโงม อำเภอเมือง จังหวัดชัยภูมิเดิมพื้นที่ แถวนี้ เป็นป่า ต่อมาได้มีคนมาบุกเบิกทำไร่และก็เห็นมีก้อนหินขนาดใหญ่อยู่ทั่วไปแต่ ก็ไม่ได้สนใจอะไร ที่ไร่ มันสำปะหลัง (ในสมัยนั้น) แต่จากเสียงบอกเล่า มีคนเคยเห็นว่าแปลกประหลาดมาก ก็คือก้อนหินใหญ่ 5 ก้อน ที่ในทุกคืนวันพระ (15 ค่ำ, 8 ค่ำ) จะมีแสงสีขาวส่องขึ้นมา คนเฒ่าคนแก่สมัยนั้น เลยเรียกที่นี่ว่า มอหินขาว สโตนเฮนจ์เมืองไทย“เสาหินและแท่งหิน ที่มอหินขาวส่วนใหญ่เป็นหินทรายสีขาว นอกจากนี้ก็ยังมี หินทรายแป้ง หินโคลน หินทรายสีม่วง
มอหินขาวกลุ่มแรกเหมือนหน้าคนมากมหัศจรรย์ทางธรรมชาติ
มอหินขาวมอหินขาว
มอหินขาวมีกลุ่มหินอยู่หลายแห่งด้วยกัน เมื่อเรามาถึงมอหินขาว  ก็จะถึง กลุ่มหินชุดแรก คือ “เสาหิน 5 ต้น” เป็นหินที่มีความสูงประมาณ 12 เมตร จำนวนหนึ่งใน 5 มีต้นหนึ่งที่มีขนาดใหญ่ขนาด 22 คนโอบ เสาหิน 5 ต้นนี้นับเป็น เสาหินที่เด่นที่สุด และเป็นไฮไลตืของการมาเที่ยวมอหินขาว
มอหินขาวมอหินขาว
มอหินขาวกลุ่มที่ 2 เหมือนเจดีย์ เหมือนกระดองเต่า
มอหินขาวมอหินขาว
ถัดจากกลุ่มหินชุดแรกไปเล็กน้อยจะถึงบริเวณลานกางเต็นท์ มีห้องน้ำบริการจากจุดนี้มีเส้นทางเดินไปยังกลุ่มหิน และจุดชมวิว ได้แก่ หินเจดีย์โขลงช้าง ระยะทางเดินเท้า 650 เมตร ลานหินต้นไทร 900 เมตร สวนหินล้านปี 1,250 เมตร และจุดชมวิวผาหัวนาค 2,500 เมตรซึ่งเหมาะสำหรับนักท่องเที่ยวที่ชอบลุยพักนอนกลางเต็นท์ ชม ธรรมชาติกลางป่าเขายิ่งนัก แล้วก็มาถึง หินกลุ่มที่ 2 อยู่ห่าง จากลุ่มแรกประมาณ 500 เมตร เรียกรวมกัน ว่า "ดงหิน"มีแท่งหินรูปร่างแปลกประหลาดมากมาย มีรูปร่างคล้ายเจดีย์ กระดองเต่ารองเท้่าบูท และบริเวณหินกลุ่ม นี้เรายังสามารถขึ้นไปชมวิวที่กว้างไกลสุดสายตาของที่นี่ได้
ทุ่งดอกไม้ระหว่างทางดอกไม้ป่าที่ขึ้นแซมกับปฏิมากรรมหิน
มอหินขาวมอหินขาว
หินกลุ่มที่ 3 อยู่ห่างออกไปอีก 1,500 เมตร เป็นแท่งหินและเสาหินขนาดเล็กกระจายอยู่บนลานหินกว้างโดย ลาดเอียงขึ้นไปจดหน้าผา ที่มีชื่อว่า “ผาหัวนาค” หากมาท่องเที่ยวในฤดูฝน นอกจากนักท่องเที่ยวจะได้พบเห็น ประติมา้กรรมทางธรรมชาติที่สวยงามของเสาหินแล้ว ยังได้พบดอกไม้ป่าที่บ้านสะพรั่งอยู่ทั่วมอหินขาวดูแล้ว เป็นภาพที่สวยงามและน่าชมนัก  หากคุณได้เข้ามาสัมผัสมนต์เสน่ห์แห่งป่าเขาที่นี่แล้วจะชวนคุณหลงใหลมิรู้ลืม
จน”มอหินขาว” แห่งนี้เคย ได้รับการคัดเลือกให้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์ของท่านมุ้ย เรื่องพระนเรศวรมหาราช มาแล้ว นี่คืออีกหนึ่งความท้าทายของนักแคมป์ปิ้งไม่ควรพลาดได้มาพิสูจน์กัน
ทุ่งดอกไม้ระหว่างทางดอกไม้ป่าที่ขึ้นแซมกับปฏิมากรรมหิน
มอหินขาวมอหินขาว
สอบถามรายละเอียดได้ที่ อุทยานแห่งชาติภูแลนคา โทร. 044810902-3 หรือกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช โทร.025620760
ที่มอหินขาวไม่มีบ้านพักไว้บริการนักท่องเที่ยว จะมีแต่สถานที่กางเต้นท์ไว้คอยให้บริการ มีห้องน้ำไว้แต่ไม่สะดวก มากนัก นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาค้างแรมที่นี่ต้องเตรียมอาหารมาเอง
1. โดยรถยนต์ส่วนตัว
จากตัวจังหวัดชัยภูมิ ใช้เส้นทางหลวงหมายเลข 2051 ถนนสายชัยภูมิ – ตาดโตน เป็นทางลาดยางระยะทาง ประมาณ18 กิโลเมตร เลี้ยวซ้ายก่อนถึงด่านของอุทยานแห่งชาติตาดโตน ตามถนนตาดโตน – ท่าหินโงม เป็นทาง ลาดยางประมาณ 12 กิโลเมตร แยกซ้ายตามถนนแจ้งเจริญ-โสกเชือก เป็นทางลูกรัง ระยะทาง 6.5 กิโลเมตรถึง บ้านวังคำแคนจากนั้นเลี้ยวขวาช่วงบ้านวังคำแคน ซึ่งเป็นทางลูกรังที่ชาวบ้านที่นี่ใช้เป็นเส้นทางสำหรับ ขนพืชไร่ ไปต่ออีกประมาณ 3.5 กิโลเมตร  ในช่วงฤดูฝนควรใช้รถยนต์ประเภทรถกระบะหรือรถขับเคลื่อนสี่ล้อ เพื่อความเหมาะสมกับเส้นทาง
2. โดยรถโดยสารประจำทาง
ที่มอหินขาวไม่มีรถสาธารณะผ่าน นักท่องเที่ยวที่ต้องการมาที่นี่ต้องเหมารถจากตัวเมืองชัยภูมิ หรือหากไปเที่ยว